โอวาทของนายกวุฒิบัณฑิตแพทย์ฉุกเฉิน ประธานในงานพิธีมอบวุฒิบัตรแพทย์สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินของแพทยสภา และเกียรติบัตรการเป็นสมาชิกสามัญของวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย แก่วุฒิบัณฑิตแพทย์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 1 เมื่อ 17 มีนาคม พุทธศักราช2560
กล่าวเปิดงาน 17 มีนาคม 2560
เรียน ท่านกรรมการวิทยาลัย หัวหน้าภาควิชาและคณาจารย์แพทย์สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน เวชบัณฑิตแพทย์ฉุกเฉินผู้เข้ารับวุฒิบัตร และผู้มีเกียรติทุกท่าน
กระผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเป็นประธานและยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานพิธีมอบวุฒิบัตรสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ของวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1
ในวันนี้เมื่อ 1 ปีที่แล้ว, วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทยได้เกิดขึ้นตาม ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย พ.ศ.2559 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พุทธศักราช 2559 มีจำนวนสมาชิก ณ วันที่ประกาศ 543 คน และในวันนี้เราก็จะมีสมาชิกใหม่เพิ่มอีก 84 คน
กระผมขออนุญาตใช้โอกาสนี้ กล่าวขอบคุณคณาจารย์แพทย์ทุกท่านจากวิทยาลัยและราชวิทยาลัยต่างๆของแพทยสภา และสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ที่เป็นผู้ร่วมริเริ่มจัดทำเกณฑ์หลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินจนได้รับความเห็นชอบจากแพทยสภา และอนุมัติให้มีการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินรุ่นแรกขึ้นในประเทศไทยเมื่อปีพุทธศักราช 2547 หากไม่มีวิสัยทัศน์และความทุ่มเทเสียสละของอาจารย์แพทย์ทุกท่านเมื่อ 14 ปีที่แล้ว การฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินในประเทศไทย อาจมิได้พัฒนาและมีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดเช่นในปัจจุบัน
แพทย์เวชปฏิบัติฉุกเฉิน แม้จะเป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาใหม่ แต่กลับเป็นสาขาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสาธารณสุขของประเทศ เนื่องจากเป็นแพทย์กลุ่มแรกที่จะต้องช่วยเหลือผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินซึ่งเป็นสาเหตุการตายรวมกันของคนไทยมากกว่าร้อยละ 50 ในปัจจุบัน ดังนั้นหากเรามีแพทย์เวชปฏิบัติฉุกเฉินที่ให้การบริบาลตามมาตรฐานวิชาชีพเฉพาะทาง ก็ย่อมเป็นการรับประกันได้ว่า ประชาชนคนไทยจะสามารถเข้าถึงการบริบาลด้านการแพทย์ฉุกเฉินที่มีคุณภาพสูง ได้รับการบริบาลในภาวะฉุกเฉินและฉุกเฉินวิกฤตได้ทันท่วงที และสามารถส่งต่อผู้ป่วยสู่การบริบาลของแพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
ขอพวกเราทุกคนจงภาคภูมิใจ และถือเป็นเกียรติที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะแพทย์เวชปฏิบัติฉุกเฉิน ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉินและฉุกเฉินวิกฤต ได้ทำให้บุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวกลับไปอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งหนึ่ง
บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว กระผมขอเปิดงาน “พิธีมอบวุฒิบัตรของแพทยสภา และเกียรติบัตรการเป็นสมาชิกสามัญของวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย แก่วุฒิบัณฑิตแพทย์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 1 ประจำปี พุทธศักราช2560” ณ บัดนี้ ขอขอบคุณ
โอวาทของนายกวุฒิบัณฑิตแพทย์ฉุกเฉิน ประธานในงานพิธีมอบวุฒิบัตรแพทย์สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินของแพทยสภา และเกียรติบัตรการเป็นสมาชิกสามัญของวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย แก่วุฒิบัณฑิตแพทย์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 1 เมื่อ 17 มีนาคม พุทธศักราช2560
ในนามของวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ผมขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจ กับวุฒิบัณฑิตแพทย์ฉุกเฉินตลอดจนครอบครัวของท่านทุกคน สำหรับความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของชีวิตในวันนี้
ไม่มีผู้ใดสามารถประสบความสำเร็จได้โดยลำพัง ในโอกาสนี้ผมขอให้ทุกคนรำลึกและแสดงความขอบคุณผู้มีพระคุณที่อยู่เบื้องหน้าท่าน ซึ่งก็คือ ครูบาอาจารย์ของท่าน, คนที่อยู่เคียงข้างท่าน ซึ่งก็คือ เพื่อนร่วมงาน, บุคคลที่คอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง ซึ่งก็คือ ครอบครัวของท่าน และสุดท้ายบุคคลที่เป็นอาจารย์ที่ทำให้ท่านมีประสบการณ์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องซึ่งก็คือ ผู้ป่วยฉุกเฉินของพวกเราทุกคนนั่นเอง
ผมขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงพระราชทานเมื่อวันที่ 14 กันยายน พุทธศักราช 2516 ความว่า “ความรู้จักอดทนอดกลั้น ไม่ยอมตัวยอมใจ ให้วู่วามไปตามเหตุการณ์ ตามอคติและอารมณ์ที่ชอบใจหรือไม่ชอบใจนั้น ทำให้เกิดมีการยั้งคิด และธรรมดาคนเราเมื่อยั้งคิดได้แล้ว ย่อมมีโอกาสพิจารณาเรื่องที่ทำ คำที่พูด ทบทวนดูใหม่ได้อีกคำรบหนึ่ง การพิจารณาทบทวนเรื่องใดๆ ใหม่ ย่อมจะช่วยให้มองเห็นละเอียดชัดเจนขึ้น ทำให้เกิดความเข้าใจอันกระจ่างสว่างไสวขึ้น”
ผมขอให้ทุกท่าน ไม่ว่าจะไปเป็นแพทย์เวชปฏิบัติฉุกเฉิน โรงพยาบาลภาครัฐหรือภาคเอกชน ขอให้ท่านปฏิบัติงานในหน้าที่ด้วยความอดทนและมีความเมตตา มีความละเอียดรอบคอบ โดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง เนื่องจากการบริบาลผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นงานด่านหน้า มีโอกาสได้รับแรงกดดันในการทำงานสูง ทั้งจากปัญหาของตัวผู้ป่วยเอง ความคาดหวังของญาติ การประสานงานกับเพื่อนร่วมงาน หากเราผู้ปฏิบัติไม่รู้จักอดทนอดกลั้น ไม่ตั้งสติให้มั่นคง ไตร่ตรองให้รอบคอบ ก็อาจส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ป่วย ตัวเราเอง เพื่อนร่วมงานและหน่วยงานที่รับผิดชอบได้
ท้ายที่สุดนี้ ผมขออวยพรให้ทุกท่านได้ประสบความสำเร็จในการออกไปประกอบวิชาชีพเป็นแพทย์เวชปฏิบัติฉุกเฉินอันทรงเกียรติ เป็นที่ยอมรับและศรัทธาจากประชาชน โดยใช้ความรู้ความสามารถเพื่อรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินที่ฝากชีวิตไว้ในมือท่าน ได้ตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณด้วยการดูแลพ่อแม่ที่เคารพ และตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอันเป็นที่รักของพวกเราทุกคนด้วยการเป็นแพทย์ที่ดีของประเทศไทย ขอบคุณครับ